แต่ยังเป็นเรื่องของความคุ้มค่าในระยะยาวที่หลายคนมักมองข้าม เพราะฟิล์มกรองแสงมีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลดความร้อนจากแสงแดดที่แผดเผาในแต่ละวันโดยเฉพาะในเมืองไทยที่อากาศร้อนจัดเกือบตลอดทั้งปี การติดฟิล์มกรองแสงจะช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ภายในรถยนต์หรืออาคาร ทำให้อุณหภูมิภายในลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่ช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศอีกด้วย นอกจากนั้นยังช่วยกรองรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพของวัสดุต่างๆ ภายในรถหรือบ้าน เช่น แผงคอนโซล เบาะหนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้

การติดฟิล์มกรองแสงจึงเปรียบเสมือนเกราะป้องกัน

ในแง่ของการถนอมทรัพย์สินให้อยู่ในสภาพดีนานยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัว เพราะฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มเหมาะสมจะช่วยลดการมองเห็นจากภายนอกโดยไม่บดบังทัศนวิสัยจากภายใน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ว่าจะเป็นในรถยนต์ บ้านพักอาศัย หรือสำนักงาน ฟิล์มกรองแสงในยุคปัจจุบันยังมีนวัตกรรมที่พัฒนาไปไกลกว่านั้นมาก โดยเฉพาะฟิล์มเซรามิกที่สามารถกันความร้อนได้ดีโดยที่ยังคงความใส ไม่บังทัศนียภาพ ไม่ลดทอนสัญญาณมือถือหรือ GPS เหมือนฟิล์มโลหะในอดีต

การติดฟิล์มกรองแสงด้วยฟิล์มคุณภาพสูงยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับกระจก เพราะฟิล์มสามารถยึดเกาะกระจกไว้ได้เมื่อเกิดการแตกร้าว ลดความเสี่ยงจากเศษกระจกที่อาจก่อให้เกิดบาดแผล นับว่าเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่มีประโยชน์อย่างมากในกรณีเกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดคิด นอกจากนี้การติดฟิล์มกรองแสงยังมีส่วนช่วยในเรื่องของภาพลักษณ์ เพราะทำให้รถยนต์หรืออาคารดูดีขึ้น ดูมีความเรียบร้อยทันสมัย มีสไตล์ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับดีไซน์ภายนอกควบคู่ไปกับประโยชน์การใช้งาน อีกทั้งการลงทุนกับการติดฟิล์มกรองแสงยังถือเป็นการลงทุนที่ใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวแต่ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานหลายปี

ฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีในปัจจุบันมีอายุการใช้งานมากกว่า 5-10 ปี

ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับตลอดระยะเวลาใช้งาน จึงถือเป็นการใช้เงินอย่างชาญฉลาดสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจทั้งเรื่องความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความคุ้มค่า และรูปลักษณ์ภายนอก สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าควรจะติดฟิล์มกรองแสงดีหรือไม่ คำตอบนั้นชัดเจน เพราะประโยชน์ที่ได้รับมีมากมายเกินกว่าจะมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงาน การปกป้องภายในจากความเสียหาย การเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือแม้แต่เรื่องของความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน หากคุณยังลังเล ไม่แน่ใจว่าจะเลือกฟิล์มแบบไหนดี ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือร้านติดฟิล์มที่มีประสบการณ์ เพราะการเลือกฟิล์มที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน บางคนอาจต้องการความเข้มสูงเพื่อกันร้อน บางคนอาจต้องการฟิล์มใสเพื่อไม่ให้ทัศนวิสัยลดลง หรือบางคนอาจเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งฟิล์มกรองแสงแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติตอบโจทย์ได้แตกต่างกันไป ดังนั้นการติดฟิล์มกรองแสงไม่ใช่แค่การเลือกแบบตามความชอบเท่านั้น แต่ต้องอิงกับการใช้งานจริงและความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคลด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้การติดฟิล์มกรองแสงไม่ใช่แค่การเพิ่มความสวยงามหรือกันแดดธรรมดา